บิ๊กปู สั่งเข้มคุมต่างชาติทะลักแม่สอดลงระบบ ตม. สกัดกลับเข้าไทยซ้ำ

บิ๊กปู สั่งเข้มคุมต่างชาติทะลักแม่สอดลงระบบ ตม. สกัดกลับเข้าไทยซ้ำ

จากกรณีที่ทางรัฐบาลเมียนมาได้เข้าปราบปรามและทำลายแหล่งสแกมเมอร์ในเขตพื้นที่เมียวดี โดยเฉพาะการเข้าทำลายอาคาร KK Park ซึ่งเป็นแหล่งสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ เป็นผลให้มีคนต่างชาติที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าว ต่างหนีตายข้ามแม่น้ำเมย ผ่านช่องทางธรรมชาติเข้าไทยจำนวนมาก โดยมีกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าสกัดจับกุม เพื่อตรวจสอบ คัดกรอง และส่งกลับประเทศ

วันนี้ ( 10 พ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบช.ฯ โฆษก สตม. เปิดเผยว่า วันนี้ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ สตม. นำคณะบินเข้า พื้นที่ อ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อร่วมคณะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่เข้าพื้นที่แม่สอด เพื่อติดตามสถานการณ์การควบคุมส่งกลับของต่างชาติดังกล่าว

โดยพบว่า มีคนต่างชาติที่ลักลอบหนีเข้าเมือง ตั้งแต่ 22 ต.ค.2568 ประมาณ 1,440 คน ส่วนใหญ่เป็นชาติอินเดียถึง 465 คน รองลงมาเป็นชาติแอฟริกา 270 คน ฟิลิปปินส์ 220 คน และจีน 187 คน และสัญชาติอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งตามลำดับ โดยทุกราย จะมีการควบคุมตัวเพื่อเตรียมผลักดันกลับประเทศ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

ทั้งนี้ ทุกรายจะต้องมีการคัดกรอง สัมภาษณ์ตามกระบวนการ NRM หรือ National Referral Mechanism กลไกการส่งต่อระดับชาติ ซึ่งเป็นระบบในการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานตามมาตรฐานสากล

นอกจากนั้น พล.ต.ท.ภาณุมาศ ฯ ได้สั่งให้ ตม.จว.ตาก ดำเนินการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์ Biometric คนต่างชาติทุกรายลงในระบบ สตม. เพื่อป้องกันคนต่างชาติเหล่านี้ เปลี่ยนแปลงตัวตนในเอกสารเดินทาง แล้วกลับเข้าประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นการแฝงตนเข้าไทย เพื่อหาโอกาสเดินทางกลับไปตกเป็นเหยื่อของกลุ่มสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้านซ้ำรอยอีก

โดยสั่งการให้ ตม.สนามบิน ทุกแห่งเพิ่มความเข้มในการสกัด ตรวจสอบ คนต่างชาติที่มีประวัติการถูกนำตัวส่งกลับจากแหล่งสแกมเมอร์ในเมียนมาร์ ให้ปฏิเสธการเข้าเมืองทุกราย เนื่องจากมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับการร่วมกระทำผิด โดยเฉพาะกลุ่มชาติเอเซียใต้ แอฟริกาตะวันออก รวมถึงการช่วยเตือนคนต่างชาติที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคนที่เดินทางมาคนเดียว แต่ไม่มีแผนการท่องเที่ยวที่ชัดเจน ไม่มีการซื้อตั๋วเดินทางกลับ และโรงแรมที่พัก จะถูกสัมภาษณ์แจ้งเตือนว่า อาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มสแกมเมอร์ที่หลอกให้มาทำงานผิดกฎหมาย ซึ่งตั้งแต่ต้นปี ทาง ตม.สนามบิน มีการแจ้งเตือนไปแล้วกว่า 3,384 ราย

Related posts